อีกแล้ว! สามีนักการเมืองพรรคดัง ทำร้ายเมีย ต่อยเบ้าตาช้ำ ซ้ำโอนย้ายสินสมรสพันล้านหนี

Author:

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.66 สำนักข่าวดังเผยว่า คุณลักษณ์ นักธุรกิจ ผู้เสียหาย เล่าว่า สามีของตนเป็นนักการเมืองสังกัดพรรคดัง เป็นสามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย อยู่กินกันมา 11 ปี ทำธุรกิจด้านอาหารสัตว์ร่วมกัน 5 ปี แต่ไม่ได้มีลูกร่วมกัน มีลูกติดฝั่งละคน ความสัมพันธ์ดูเหมือนจะดี แต่แล้วจู่ ๆ สามีก็ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตน โดยก่อนเกิดเหตุ สามีได้หนีหายออกจากบ้านไปหลายวัน ติดต่อไม่ได้ บล็อกตนทุกช่องทาง ก่อนที่จะกลับมาที่บ้าน เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปถามสามีด้วยความเป็นห่วงว่าหายไปไหนมา แต่สามีกลับโมโห ด่าตนว่า ไม่อยากอยู่กับมึง เกลียดมึง เบื่อมึง พร้อมกับด่าเสีย ๆ หาย ๆหนักถึงขนาดไล่ให้ตนไปตายกับบุพการี ซึ่งเรื่องนี้ตนรับไม่ได้ เนื่องจากตนเป็นลูกกำพร้าสูญเสียคุณพ่อ คุณแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความโมโหเช่นกัน ตนจึงได้เดินไปคว้าตุ๊กตาที่อยู่ในโรงรถไปทุบใส่ กระจกหน้ารถหรูของสามีจนแตกยับ สามีเห็นดังนั้นจึงเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยเข้าไปที่ใบหน้าจนคิ้วแตก เบาตาช้ำเขียวจนเห็นได้ชัด หลังจากสามีทำร้ายร่างกาย

ยอมรับว่ามีผลโดยตรงต่อธุรกิจขายอาหารสัตว์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ตนกับสามีเป็นดีลเลอร์ร่วมกัน เพราะต่อมาทราบว่า สามีมีการพยายามนำชื่อของตนออกจากการเป็นกรรมการบริษัทและเปิดบริษัทอาหารสัตว์แห่งใหม่ภายใต้ชื่อใหม่ โดยใช้ชื่อลูกชายของเขา ซึ่งเป็นลูกติด ให้มาเป็นบุคคลที่ 3 ถือหุ้น 90 % ส่วนฝ่ายสามีถือหุ้นเพียง10% โดยมีการโอนย้ายทรัพย์สินจากบริษัทตน มาไว้ที่บริษัทใหม่ ตัดรายได้ตนทุกช่องทาง เรื่องดังกล่าวทำให้ตนรับไม่ได้ เท่านั้นไม่พอ สามียังแจ้งความตน 3 ข้อหาด้วยกัน ข้อหาแรก “ทำร้ายทรัพย์สิน” ข้อหาสอง”ลักทรัพย์” เนื่องจากตนเคยไปกดตู้เซฟเพื่อที่จะนำของในตู้เซฟออกมาประทังชีวิต ส่วนข้อหาสุดท้ายตนงงหนักมาก เพราะสามีแจ้งข้อหาว่าตนมีชู้ ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้น

ส่งผลกระทบหนักมากต่อธุรกิจ เนื่องจากพี่สาวของตนต้องดูแลธุรกิจในส่วนของจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของตน แต่กลับถูกสามีกลั่นแกล้งสารพัด ซึ่งมองว่าสามีไม่แยกแยะเรื่องส่วนตัว ลามไปถึงพี่สาวและทีมงานในจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ต้องเดือดร้อนไปด้วย จึงคิดว่าไม่ถูกต้อง ส่วนเรื่องที่สามีเป็นนักการเมืองก่อนหน้านี้ตนเคยบอกสามีไปแล้วว่า อย่าลงเล่นการเมืองเลย แต่ตนก็ห้ามไม่ได้ สามีไม่ฟังแอบไปลงสมัคร สาเหตุที่ไม่อยากให้ลงเล่นการเมืองเพราะว่า การประกอบธุรกิจส่วนตัวก็ดีอยู่แล้ว หากไปเล่นการเมืองมีแต่เสียกับเสีย ส่วนทางคดีความ ขณะนี้ฟ้องร้องสามีไปแล้ว คดีอยู่ในชั้นศาล แบ่งเป็นคดีฟ้องหย่าแบ่งทรัพย์สิน และคดีทำร้ายร่างกาย

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่อง ตนได้แยกกันอยู่กับสามี โดยตนมาอาศัยอยู่กรุงเทพมหานคร ส่วนบ้านที่อยู่ร่วมกันที่จังหวัดสกลนคร สามีก็ได้ให้พ่อกับแม่ของเขามาอาศัยอยู่แทน ตอนนี้ตนเครียดหนักมาก เพราะว่าลูกชายใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เคยถามลูกว่าย้ายโรงเรียนได้ไหม ลูกตอบกลับมาว่า “อย่าย้ายเลยคุณแม่” เพราะสังคมของเขาอยู่ตรงนั้นหมดแล้ว อีกทั้งลูกของตนก็เป็นผู้พิการ จึงไม่อยากเริ่มสังคมใหม่ ๆ อีกแล้ว ยอมรับว่าอยากเอาลูกกลับไปอยู่ที่บ้านในจังหวัดสกลนคร

แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากตนมีลูกติด พ่อแม่ของฝ่ายสามีจึงไม่ค่อยชื่นชอบตน ด้านคุณอ้อ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้กลุ่มเป็นหนึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานที่จะฟ้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร, การโอนย้ายชื่อของคุณลักษณ์เข้าออกภายในบริษัทถึง 13 ครั้ง โดยที่คุณลักษณ์ไม่ทราบเรื่อง อีกทั้งคุณลักษณ์เป็นคนในองค์กรเป็นหนึ่ง ตนยืนยังจะช่วยเหลือให้เต็มที่ที่สุด ใช้หลักฐานข้อกฎหมายช่วย รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ขอบคุณ workpointnews

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *