น้องมะลิ ย้ำ! ห้ามแม่มีแฟน โบว์ แวนดา ทำบุญครบรอบ 8 ปี ปอ ทฤษฎี อบอุ่นเรียบง่าย

Author:

โบว์ แวนดา ทำบุญครบรอบ 8 ปี ปอ ทฤษฎี อบอุ่นเรียบง่าย น้องมะลิ ย้ำ! ห้ามแม่มีแฟนเหมือนเดิม ก่อนเผยเรื่องช็อกเจอข้อความเด็ดในมือถือ แม่โบว์เคลียร์แทบไม่ทัน

ครบรอบ 8 ปี การจากไปของพระเอกชื่อดังขวัญใจคนไทย ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2559 ล่าสุดวันที่ 18 ม.ค.2567 โบว์ แวนดา ภรรยา และ น้องมะลิ ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์ ลูกสาว ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ที่บ้านพักส่วนตัวย่านลาดพร้าวเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเรียบง่าย หลังจากทำพิธีต่างๆ เสร็จสิ้น โบว์ แวนดา และ น้องมะลิ ได้ให้สัมภาษณ์

โดย โบว์ กล่าวว่า “การทำบุญในวันนี้ก็เป็นประจำเหมือนเช่นทุกปี แต่บรรยากาศปีนี้ค่อนข้างสดใส ไม่มีน้ำตามี แต่รอยยิ้มค่ะ ครบรอบ 8 ปีแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก ดูได้จากการเติบโตของมะลิ ตั้งแต่เขาตัวน้อยๆ จนวันนี้ก็โต 10 ขวบแล้ว ปีนี้ก็แยกกันทำกับทางคุณปู่คุณย่าที่บุรีรัมย์เพราะว่าติดงาน เลยบอกว่าปีนี้แยกกันอีกปี แต่เดี๋ยวน่าจะมีสักปีที่ได้กลับไปทำที่บุรีรัมย์แบบใหญ่ๆ เลย จริงๆ เราตั้งใจอยากจะไปทำที่บุรีรัมย์นั่นแหละ เพราะอยากจะให้พร้อมหน้าพร้อมตาคุณปู่คุณย่า แต่ว่าด้วยงานและภารกิจนู่นนี่นั่น ปีนี้ก็เลยไม่ได้จริงๆ”

น้องมะลิ – “หนูอยากไปทำบุญที่บุรีรัมย์มากๆ เลยค่ะ เพราะได้ข่าวว่าที่นั่นอากาศดีมาก(ยิ้ม) ปีนี้ไม่ได้มีอะไรจะบอกคุณพ่อเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าอยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว”

ล่าสุดเห็นเพิ่งไปบุรีรัมย์มา?
โบว์ – “ใช่ค่ะ พอดีว่ามีโอกาสว่าง 1 วัน เหมือนช่วงนี้เราจะรู้สึกว่าตัวเองงานเยอะมาก ตั้งแต่สิ้นปีจนถึงวันนี้แทบจะไม่มีเวลาได้ว่างเลย แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรเข้ามาในทุกๆ วัน ปีใหม่แล้วก็อยากที่จะไปหาพี่ปอและไปเติมพลัง เหมือนเป็นพลังบวกให้เราในการที่จะเริ่มต้นปีนี้ด้วย เลยแว้บไปหาเขามาค่ะ”

เหมือนมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?
โบว์ – “ปกติอ่ะค่ะที่เราจะต้องเจออะไรอยู่แล้ว แต่ก็ยังท่องคำเดิมของพี่ปอที่เขาเคยสอนโบว์ตลอดว่า…เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราก็พยายามสงบนิ่งให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งพอไปแล้วก็รู้สึกดีขึ้นจริงๆ เหมือนได้กลับไปในที่ของเขาบ้านของเขาค่ะ”

ก่อนจะถึงวันครบรอบ มีฝันถึงพี่ปอบ้างไหม?
มะลิ – “แม่ฝันถึงเรื่องเกี่ยวกับเลขหวย”
โบว์ – “(หัวเราะ)ไม่ใช่ ถามว่ามีฝันมั้ย ก็มีค่ะ แต่คิดว่าคงเป็นความคิดถึงมากกว่า วันไหนเราพูดถึงเขาเยอะหรือคิดถึงเขาเยอะก็จะเก็บไปฝัน ในฝันก็ดีตลอด บางทีฝันไปแล้วเหมือนในชีวิตจริง มีโกรธกันหึงกันในฝัน จับได้ไปมีผู้หญิงอะไรอย่างเงี้ย เรื่อยเปื่อยมาก แต่พอตื่นมาแล้วก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจหน่อย อย่างน้อยมันยังมีอีกความเห็นภาพเห็นอะไรเหมือนตอนที่เขามีชีวิต”

มะลิ – “ช่วงนี้หนูไม่ค่อยมีฝันถึงพ่อเท่าไหร่นะคะ เพราะว่าตื่นมาก็เจอพ่อเลย”

ปีที่แล้วสัมภาษณ์กันไปบอกห้ามไม่ให้แม่มีแฟน ปีนี้อนุญาตหรือยัง?
มะลิ – “ไม่ค่ะ ตอบแบบไม่คิดเลย ไม่ได้เลย แค่คนคุยก็ไม่ได้ เพราะว่าตอนนั้นหนูช็อกมากเลย นั่งดูทีวีอยู่แล้วมีข้อความขึ้นมาในโทรศัพท์ของคุณแม่ว่า “หายโกรธหรือยัง” หนูก็เลยกดเข้าไปอ่านดูเห็นรูปเป็นผู้ชายด้วย เลื่อนดูไปเรื่อยๆ และเพราะว่ามันไม่มีคำว่าเพื่อนเลย หนูก็เลยเดินไปถามแม่ว่า “นี่คืออะไร ผู้ชายเหรอ” แม่ก็บอกว่า “ไม่ใช่นี่เพื่อนสนิทแม่” กลายเป็นว่าหนูเข้าใจผิดไปตั้งแต่แรกเลย”

โบว์ – “(หัวเราะ)คือเขาจะชอบเอาโทรศัพท์ของเราไปเล่น เราก็อารมณ์คุยกับเพื่อน แล้วเพื่อนของเพื่อนก็งอนกัน ทางนี้ก็เลยถามว่าหายโกรธหรือยัง เราก็แบบเออดีแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เป็นผู้ชายไงคะ เพื่อนของเราที่เป็นผู้หญิงนี่แหละ มะลิก็มาเลย…คืออะไร เราก็เลยต้องถามกลับว่า…แล้วคืออะไรเอาไลน์คนอื่นไปอ่าน เขาก็โดนกลับเลย(ยิ้ม)”

จริงๆ เราเปิดใจกับเรื่องความรัก?
โบว์ – “ไม่เคยปิดนะ อย่างเจย์เนี่ยผ่านแล้วเพราะเขากลัวเราเหงา ถ้ามีก็มีได้นะไม่ได้อะไรแล้ว แต่มะลิก็ยังหวงเราอยู่ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีใครเข้ามาจีบจริงๆ ด้วยวัยของเรามันก็คงไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นแล้วค่ะ”

ตอนนี้ทั้งน้องมะลิและพี่เจย์(กาญจน์โสภณ)กำลังไปได้ไกลในวงการบันเทิง ได้บอกให้พี่ปอฟังบ้างไหม?
โบว์ – “จริงๆ บอกเขาตลอดว่าถ้าเขายังได้ยินได้เห็น เอาจริงเรารู้แหละว่าเขาไปแล้ว แต่ความรู้สึกเราก็ยังมีแอบคิดบ้าง ถ้าเขายังจำผู้หญิงคนนี้ได้ จำเด็กทั้งสองคนนี้ได้ เราอยากให้เขามองด้วยความที่เราพยายาม มะลิพยายาม เจย์พยายาม แล้วในความพยายามนั้นก็อยากให้เขารู้สึกภูมิใจและดีใจกับทุกๆ คน โบว์เชื่อว่าถ้าพี่ปอยังมองเห็นอยู่ก็คงจะภูมิใจในความเป็นมะลิและเจย์ ไม่ว่าสองคนนี้จะเป็นอะไรก็ตาม”

รู้สึกยังไงที่ลูกสาวสามารถไปทำงานในกองถ่ายได้เหมือนนักแสดงมืออาชีพ?
โบว – “เราก็ดีใจในสิ่งที่เขาอยากทำทุกเรื่อง ถามว่าเป็นห่วงมั้ย ก็แอบเป็นห่วงแหละ ในความที่เขาก็เรียนด้วย แล้วบางทีการแสดงละครมันต้องใช้อารมณ์ เราก็กลัวว่าความที่เขายังเป็นเด็กจะรับมือเรื่องอารมณ์ได้มั้ย เพราะเดี๋ยวมีร้องไห้ มีหัวเราะ เราก็จะถามเขาตลอดว่าไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวหรือไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำให้บอกแม่ เอาจริงๆ ใจเราก็ยังไม่อยากให้ลูกรับงานละครเท่าไหร่ แต่ว่าถ้ามีงานอะไรเข้ามาเราก็ต้องบอกเขาเพราะเขาโตพอที่จะรับรู้แล้ว ถ้างานไหนเขาอยากลองอยากเล่น เราก็ต้องให้เขาเพราะมันคือโอกาสของเขา ซึ่งเราเองก็มองว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มาง่ายๆ ในชีวิต”

ตอนนี้น้องมะลิถ่ายละครอยู่เป็นยังไงบ้าง?
มะลิ – “สนุกค่ะ แต่เต้นสนุกกว่า(ยิ้ม) ส่วนเรื่องจัดการอารมณ์ต่างๆ หนูก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง แต่ตัวหนูเองชอบทั้งสองอย่าง ทั้งเต้นและแสดงละคร เต้นก็มีความสุข เล่นละครก็มีความสุข หนูคิดว่าก็จะทำมันไปตลอดชีวิตเลย ถามว่ามีบทแบบไหนที่อยากเล่นมากๆ อยากเล่นเป็นซอมบี้ค่ะ เพราะซอมบี้ไม่ต้องพูด แค่แหว่ๆๆ(ทำท่าให้ดู) ต่อให้ต้องแต่งหน้าน่ากลัวก็ทนไหวค่ะ เพราะอยากแต่งแบบขี้เหร่ๆ บ้าง”

โบว์ – “เราเองก็ไม่คิดว่าเขาจะมาทางด้านบันเทิงขนาดนี้ เพราะเราเองก็ไม่ได้ผลักดันขนาดนั้น แต่ว่าก็ต้องขอบคุณทางผู้ใหญ่ด้วยกับทุกโอกาสที่ไม่ได้ลืมน้อง ยังเอ็นดูและมอบงานมาให้ ถามว่าทุกวันนี้ห่วงอะไรที่สุด เพราะมะลิและเจย์ก้าวขาเข้ามาในวงการเต็มตัวแล้ว ห่วงมากๆ ยิ่งเรามีชื่อเสียงยิ่งมีคนรู้จักมากแค่ไหน โบว์ว่ามันเป็นภาวะทางอารมณ์ที่เราต้องควบคุมและจัดการมันให้ได้ เพราะอย่างที่บอกมันมีทั้งคนที่รักเราและไม่รักเรา แล้วคอมเมนต์ก็มีทั้งที่ชื่นชมและในแง่ลบ ซึ่งตอนนี้มะลิโตพอที่จะเสพแล้ว บางทีเขาอาจจะไม่เข้าใจกับคอมเมนต์บางอย่างที่ตรรกะไม่ค่อยดี เราก็พยายามอธิบายเขาให้เข้าใจว่าต้องยอมรับหรือปล่อยผ่านให้ได้ เราจะเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกมากกว่า”

ฝากถึงแฟนๆ ที่ตามให้กำลังใจกันเสมอมา?
โบว์ – “ขอบคุณมากๆ นะคะ ตอนนี้ก็จะไม่ค่อยเห็นโบว์ในวงการสักเท่าไหร่ เพราะว่าอยากที่จะทำธุรกิจของตัวเองให้เต็มที่ แล้วก็รักที่จะอยู่กับความเป็นเราและธุรกิจของเรา เลยส่งมะลิกับเจย์จะได้หายคิดถึงกัน เป็นกำลังใจให้กันต่อไปนะคะ แล้วก็ขอบคุณมากๆ ที่ 8-9 ปีแล้วที่ยังจำเราสองคนแม่ลูกได้ ขอบคุณมากๆ ที่เอ็นดูมะลิจนถึงทุกวันนี้ค่ะ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *