พระหนุ่มทรชน จับมัด-ต่อยท้อง ด.ญ.วัย 14 ขืนใจในวัด ถ่ายคลิปประจาน เสนอเงิน 4 แสนหวังอุดปาก พร้อมแต่งงานด้วย แม่ไม่ยอม พาแจ้งความ

วันที่ 20 มี.ค.67 น.ส.ราตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาวเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.อ.ธนวัฒน์ คำผา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พระต๋อง หรือพระมหาภควรรณ อายุ 24 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ภายในวัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.ราตรี กล่าวว่า ตนเป็นชาว จ.เชียงราย มีลูก 3 คน โดย ด.ญ.เอ เป็นลูกสาวคนโต ได้มาเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และช่วงวันหยุดจะมาทำงานเป็นพนักงานของวัดเพื่อหารายได้พิเศษ ช่วยเหลือทางครอบครัว

จากนั้นวันที่ 18 มี.ค. ลูกโทรหาตนและร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวว่าถูกพระทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ ตกใจมากไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นภายในวัด และเป็นพระที่กระทำ จึงรีบเดินทางมาหาลูกสาว มาถึงช่วงกลางดึกวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เย็นวันที่ 18 มี.ค. ลูกสาวเลิกงานแล้วกำลังจะกลับที่พัก พระต๋อง ได้เรียกให้ช่วยเอาของไปเก็บที่ห้องเก็บเครื่องดนตรี โดย พระต๋องได้เดินตามหลังมา พอเข้าไปในห้องเก็บของ พระต๋อง ปิดประตูแล้วเข้ามากอด จัดลูกสาวมัดมือมัดเท้า ทำร้ายร่างกาย ก่อนลงมือล่วงละเมิดทางเพศ ซ้ำยังข่มขู่ไม่ให้เอาเรื่องไปบอกกับใคร แล้วปล่อยลูกสาวออกมา จึงได้โทรศัพท์มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

น.ส.ราตรี กล่าวต่อว่า หลังจากฟังเรื่องราวจากปากของลูกสาว จึงรีบเดินทางไปที่วัดก็พบว่า พระต๋อง ได้สึกออกมาแล้ว ไม่ได้สวมจีวรแล้ว สวมใส่เสื้อผ้าปกติ เข้ามาพูดคุยขอโทษขอเจรจา ขอรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไป โดยจะแต่งงานกับลูกสาว และเสนอเงินให้ 200,000 บาท แต่ตนไม่ยอม จึงได้เสนอเงินให้อีก 400,000 บาท เพื่อให้ไม่แจ้งความดำเนินคดี ตนก็ไม่ยอมและเห็นว่าการกระทำของพระองค์นี้ไม่เหมาะสม ถ้าตนรับเงินมาอาจจะไปทำกับคนอื่น สงสารลูกมากยังหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ พระต๋อง ในข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอม หรือไม่ก็ตาม, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ควบคุมตัวไว้ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.ท่าเรือ

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบถามเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าอาวาส แต่ไม่พบ ทราบจากเจ้าหน้าที่ดูแลวัดว่า เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เดินทางไปงานศพญาติที่ จ.พิษณุโลก เป็นเวลา 4 วันแล้ว และไม่ทราบข้อมูลและเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ต่อมา ด.ญ.เอ พาแม่มาดูห้องที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่สามารถเข้าไปบริเวณพื้นที่ซึ่งจะเป็นกุฎิสงฆ์และห้องเก็บเครื่องดนตรี ประตูรั้วถูกปิด โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดู และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของพระรูปนั้น

ด้าน ด.ญ.เอ เล่าว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 17.00 น. ตนเลิกทำงานแล้ว พระต๋อง เรียกให้ไปช่วยขนของไปเก็บในห้องเก็บเครื่องดนตรี ขณะเข้าไปในห้อง พระต๋อง ได้เดินตามเข้ามาล็อกประตูทันที เข้ามากอดตนตกใจมาก ขอร้องแล้วไม่ให้ทำร้าย แต่พระต๋องก็ข่มขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง พร้อมทั้งชกท้องตน 2 ครั้ง จับมัดมือมัดเท้า แล้วลงมือล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมกับถ่ายภาพตนเอาไว้ พูดข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร จากนั้นได้ปล่อยตัวเองออกมา จึงรีบโทรศัพท์บอกกับแม่และเข้าแจ้งความดำเนินคดี

หลังจากนั้น น.ส.ราตรี ได้เดินทางไปไหว้พระในวัดที่ชาวบ้านเคารพนับถือ พร้อมขอพรให้คนที่ทำไม่ดีกับลูกให้ได้รับบาปรับกรรมที่เขาทำใครที่คิดไม่ซื่อคิดไม่ดีขอให้ได้รับกรรม จากนั้นได้พา ด.ญ.เอ เดินทางกลับบ้านพักที่ จ.เชียงราย ทันที และจะมาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการเรียนจะให้ ด.ญ.เอ กลับไปเรียนที่ จ.เชียงราย