เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายประเสริฐ จันทรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงประเด็นการปิดเฟซบุ๊ก (Facebook)ว่า ยังเป็นประเด็นอ่อนไหว เนื่องจากมีพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการ ส่วนมากได้รับประโยชน์อย่างสุจริตมากกว่า เพราะมีผู้ใช้งานมากกว่า 45 ล้านบัญชี

ขณะเดียวกัน ก็มีธุรกิจที่อาศัยเฟซบุ๊กอาศัยวิธีการหลอกลวงประชาชนผ่านเฟซบุ๊คด้วย ดังนั้น กระทรวงดีอีเอส จะดำเนินการเรื่องนี้โดยจะเชิญผู้บริหารจากเฟซบุ๊ก ที่ประจำอยู่ประเทศสิงคโปร์ เข้ามาหารือโดยเร็วก่อนจะตัดสินใจ เพราะช่องทางสื่อสารของประชาชน ซึ่งเฟซบุ๊กยังเป็นช่องทางที่ประชาชนนิยม แต่ในส่วนของการหลอกลวงออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่ต้องดูทั้งระบบ ไม่ใช่การปิดช่องทางการสื่อสาร

การตัดสินใจการปิดเฟซบุ๊กเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นประเด็นอ่อนไหว ผมกลัวคนที่เสียประโยชน์ด้วยความสุจริตที่เคยค้าขายผ่านเฟซบุ๊ก ยังเป็นข้อกังวล จึงต้องดูรายละเอียดก่อน และต้องมีการเจรจากับผู้ให้บริการด้วย”นายประเสริฐ กล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวถึงกรณีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่าหากพิจารณาจากรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิประชาชน และบุคคลทั่วไปในการแสดงออกทางความคิด ซึ่งกระทรวงสนับสนุนการแสดงออกผ่านสื่อสังคมต่างๆ แต่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังมีบุคคลจำนวนหนึ่งได้รับโทษจากการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสารต่างๆ ดังนั้น ในเรื่องกฎหมายอาจต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง “ดังนั้นกฎหมายหรือเงื่อนไขต้องมีการปรับเปลี่ยน หากอะไรตึงเกินไปต้องลดหย่อนหรือไม่ อะไรที่ดีอยู่แล้ว และต้องให้ดีขึ้นอีกก็ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้เกิดประโยชน์ และคุ้มครองประชาชนให้มากที่สุด”นายประเสริฐกล่าว