‘บิ๊กโจ๊ก’ จวก ตร.พฤติกรรมชั่ว แฉหนึ่งในนั้นจับ ‘หน่อง’ แล้วปล่อย เอาปืนไปซ่อน จ่อให้ออกจากราชการ

วันที่ 9 ก.ย.66 ภายหลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิต กระทั่งมีการออกหมายจับ 6 นายตำรวจ ที่มีเอี่ยวกับคดีนี้

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ต้องชมเชยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ชุดทำงาน โดยไล่ทำงานกัน 2 วันและรวดเร็วมาก จนศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 6 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 3 ข้อหา เราได้เรียงตามมาตรา 157 การเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตร้ายแรงมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และ มาตรา 184 กับ มาตรา 189

ซคางมาตรา 184 คือช่วยเหลือมิให้คนร้ายได้รับโทษ รวมถึงมาตรา 189 คือช่วยเหลือซ่อนเร้นพยานหลักฐาน ทั้งเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด และอาวุธปืน ทั้งนี้เจ้าตัวให้การรับสารภาพเพียงบางส่วน แต่จะรับสารภาพหรือไม่รับสารภาพ ไม่ใช่ประเด็น เนื่องจากศาลเชื่อในพยานหลักฐานจึงได้อนุมัติหมายจับ

พฤติการณ์มีทั้งการนำปืนออกมาจากมือ นายหน่อง แล้วนำไปซ่อน ถือเป็นการช่วยเหลือและยังพา นายหน่อง กับ กำนันนก หลบหนี เหล่านี้เป็นพฤติกรรมชัดเจนเรื่องความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ทราบว่าภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้จับ นายหน่อง ไว้ แต่ได้ปล่อยตัวไป ซึ่งเป็นคนที่เอาปืนออกมาจากมือ นายหน่อง นั่นเอง ถือเป็นพฤติกรรมที่แย่ แย่ทั้งหมด 20 กว่าคนพอกัน วันนี้มีพยานในส่วนไหนก็จะออกหมายจับก่อน สำหรับวันนี้ชัดเจนใน 6 คน ก็ออกหมายจับทั้ง 6 คน ในเรื่องนี้มีความย่ำแย่ในการก่อเหตุ

ถ้าไม่มีตำรวจช่วยเหลือทั้งการทำลายสถานที่เกิดเหตุ เก็บวัตถุพยานหรือการถอดเซิร์ฟเวอร์ และอาวุธปืน คนอย่างกำนันนกทำไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ รวมทั้งไปช่วยกำนันนกหลบหนี ทำตัวเป็นบอดี้การ์ด อีกทั้งรองสารวัตรจราจรที่ไปซื้อปืนให้ กำนันนก เอาไปให้มือปืนใช้ และยังเอารถ กำนันนก ไปซ่อนที่บ้านอีกหลัง ถือเป็นเรื่องที่ย่ำแย่มาก ฉะนั้นพฤติกรรมชั่วๆ แบบนี้ ปราบให้หมด

เบื้องต้น ทราบว่าทุกคนยอมทำเพื่อกำนัน เพราะทำตัวเป็นลูกน้องจนเคยชิน คำว่าอิทธิพลไม่มี หากตำรวจไม่รู้เห็นเป็นใจ คนเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้เพราะตำรวจเป็นเบ๊ให้ ตำรวจบางคนอยู่มานานฝังรากลึก

กรณีที่กำนันนก ไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงเอง แต่ส่งให้ นายหน่อง ยิงนั้น กรณีนี้เรามีประจักษ์พยานเป็นพยานบุคคล ตัว นายหน่อง ไม่ได้มีความโกรธเคือง โกรธแค้นส่วนตัวกับสารวัตรแบงค์ และในขณะที่ตบโต๊ะมีปัญหากันนั้น นายหน่อง ก็อยู่อีกโต๊ะหนึ่ง ฉะนั้นมูลเหตุจูงใจมันต้องมีคำสั่งให้ยิง

สำหรับตำรวจ 6 นายขณะนี้มีคำสั่งจาก สำนักงานตำรวจภาค 7 ให้ออกจากราชการไว้รอแล้ว ส่วนตำรวจทางหลวงนั้นจะต้องรอให้ต้นสังกัดพิจารณา นอกจากนี้ยังมีภาพวงจรปิดที่ ร.ต.ท.นิมิต ขี่รถคุ้มกันกำนันหลังเกิดเหตุนั้น ขี่ประกบข้างขณะหลบหนีจริง

ตำรวจทั่วประเทศมีทั้งหมด 2 แสนกว่าคน มีทั้งดีและไม่ดี ฉะนั้นตำรวจไม่ดีเราต้องไม่ช่วยเหลือและไม่เลี้ยงไว้ มีพฤติการณ์ย่ำแย่ ต้องใช้มาตรการเด็ดขาด และขอศาลออกหมายจับใส่กุญแจมือ ปฏิบัติอย่างเช่นผู้ต้องหารายทั่วไป คดีนี้ไม่ซับซ้อน 2 อาทิตย์น่าจะจบ