เดือด! ก้าวไกล-เพื่อไทย ฟาดกันยับ นายกฯส้มหล่น ประท้วงวุ่นด้อยค่า เศรษฐา

Author:

เดือด! ก้าวไกล-เพื่อไทย ฟาดกันยับ นายกฯส้มหล่น ประท้วงวุ่นด้อยค่า เศรษฐา จี้ถอนคำพูด ขอแบบรุ่นพี่ขอรุ่นน้อง ก่อนถูก “วิโรจน์” สวนกลับ “ไม่มีพี่สันดานแบบนี้”

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 12 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เป็นการอภิปรายนโยบายด้านแรงงานของส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.)

  • ติงนโนบายแรงงาน บี้ค่าจ้าง 600

โดย นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายว่า รู้สึกผิดหวังที่ไม่มีนโยบายด้านแรงงานในนโยบายรัฐบาล ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาผู้ใช้แรงงานในวันแรงงาน จะยกระดับค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน การเพิ่มทักษะแรงงาน สวัสดิการให้ผู้ใช้แรงงาน การสร้างงานใหม่ 20 ล้านตำแหน่ง

แต่ขณะนี้เรื่องที่สัญญาไว้ไม่มีอยู่ในนโยบายรัฐบาลเลย ก่อนหน้านี้นายรัฐมนตรีเคยระบุ รัฐบาลเดิมละเลยแก้ปัญหาแรงงาน แต่ท่านละเลยไม่สนใจปัญหาแรงงานเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา หรือศีลเสมอกัน เลยกอดคอตั้งรัฐบาลร่วมกันได้ ขอให้นายกฯรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผู้ใช้แรงงานตามที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ใครสั่งให้ถอดเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำออกจากคำแถลงนโยบายรัฐบาล ท่านทำเอง หรือกลุ่มทุนผูกขาดที่ร่วมโต๊ะอาหารกับท่านขอร้อง หรือพรรคที่กำกับกระทรวงแรงงานสั่งมา อย่าให้รัฐมนตรีขี่คอกดหัวเด็ดขาด เสียชื่อหมด

ขอให้พูดชัดเจนจะเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเมื่อไร ถ้ายังกั๊กอาจมีพี่น้องแรงงาน ต่อว่าว่ากะล่อนหลอกลวงเหมือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็อย่าโกรธกัน คำพูดคนเราสำคัญ นโยบายแรงงานแค่ใช้ความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ถ้าทำได้ก็เป็นคนมีเกียรติศักดิ์ศรี

  • ส.ส.ก้าวไกลใส่เสื้อไรเดอร์กลางสภาฯ

ขณะที่ นายศิริโรจน์ ธนิกกุล ส.ส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าหากดูนโยบายด้านแรงงานของรัฐบาลเหมือนเป็นส่วนที่ถูกลืม แม้แต่กระทรวงแรงงานท่านก็ให้พรรคภูมิใจไทยดูแล ท่านอาจมองว่ากระทรวงแรงงานไม่ใช่กระทรวงที่ดีตามทัศนคติของท่านหรือไม่ เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายแรงงานที่ชัดเจน มีแค่นโยบายลดรายจ่ายภาคครัวเรือน ตนจึงไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงมอบหมายให้พรรคนี้ดูแลกระทรวงแรงงาน อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนจะอภิปรายถึงปัญหาแรงงานใน 2 ส่วน คือ 1.แรงงานแพลตฟอร์ม และ 2.แรงงานข้ามชาติ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ไม่มีรายละเอียดว่าระบบสวัสดิการที่เหมาะสมคืออะไร

ศิริโรจน์ ธนิกกุล ส.ส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายนายศิริโรจน์ นำเสื้อแจ็คเก็ตไรเดอร์มาสวมใส่ทับชุดสูทด้วย โดยระบุว่า ตนเคยเป็นไรเดอร์ส่งอาหารมาก่อน พบว่าพี่น้องไรเดอร์ต่างก็ไม่รับความเป็นธรรมในการปฏิบัติงานไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มีการตีความว่าไรเดอร์ไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นตัวแทนหรือพาร์ทเนอร์ ทำให้บริษัทไม่ต้องดูแลตามกฎหมายแรงงาน สิทธิได้เท่าที่บริษัทจะเมตตาเจียดมาให้เท่านั้น ทางแก้ปัญหาจึงต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แรงงาน

อย่างไรก็ตาม ตนผิดหวังในสิ่งที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนท่านจะลืมสิ่งที่ท่านให้ความหวังพี่น้องไรเดอร์ไปหมดสิ้นแล้ว หากท่านไม่รู้จะทำอย่างไร ให้เอาร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับแรงงานและสวัสดิการสังคม ไปพิจารณา และช่วยกันผ่านกฎหมายเพื่อประโยชน์ประชาชน

  • เดือดประท้วงวุ่น นายกฯส้มหล่น

นายศิริโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาแรงงานข้ามชาติ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยขาดแรงงานข้ามชาติไม่ได้ เพราะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่จากการแถลงนโยบายมีถ้อยคำแค่ว่า จะเปิดรับแรงงานข้ามชาติมาสร้างช่วยประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ไม่บอกถึงรายละเอียด นโยบายมีความลักลั่นย้อนแย้ง มีความต้องการแรงงานแต่กังวลเรื่องความความมั่นคง และอาชญากรรม

สรัสนันท์ อรรณนพพร

จึงมีการกำหนดระยะเวลาที่แรงงานข้ามชาติจะอยู่ในประเทศได้ ทำให้เกิดเรื่องส่วยในช่วงที่มีความต้องการแรงงานสูง ปัญหาค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติสูงเกินไป รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในแรงงานข้ามชาติ ตนหวังว่าสิ่งที่ตนอภิปรายวันนี้ท่านจะมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อคลายความกังวลให้พี่น้องแรงงาน นโยบายที่ท่านแถลงต่อรัฐสภา รวมถึงสิ่งที่พรรคของท่านหาเสียงไว้ตอนเลือกตั้งจะไม่ได้ใช้เพื่อการโฆษณาหาเสียงเท่านั้น แต่ท่านจะมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อให้พี่น้องแรงงาน ประชาชนคนไทยทุกคนอยู่ดี กินดี มีเกียรติศักดิ์ศรีให้สมกับการเป็นนายกฯของประชาชน ไม่ใช่นายกฯส้มหล่นแบบที่ใครเขาว่ากัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก สส.พรรคก้าวไกลอภิปรายเสร็จสิ้น นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประท้วงการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุม พร้อมเรียกร้องให้เคร่งครัดการบังคับใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพราะเวทีรัฐสภาไม่ใช่โรงแสดง

“ประธานผ่อนปรนข้อบังคับทำให้สภาไร้ระเบียบและวินัย ทั้งที่ข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐบาล เขียนไว้ชัดเจนว่าการอภิปรายต้องไม่วนเวียน เสียดสี ไม่ทำให้ใครเสียหาย ไม่นำเอกสารยืนอ่านโดยไม่จำเป็น แต่ปัจจุบันพบว่ามีนักอ่านเก่งๆในสภาฯ และทำผิดข้อบังคับกการประชุม ดังนั้น ผมขอให้เคร่งครัดเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างกับเยาวชนต่อการสร้างนิสัยไร้ระเบียบ วินัย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี” นายวิทยา ประท้วง

จากนั้น น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายศิริโรจน์ และขอให้ถอนคำพูดที่ระบุพาดพิงนายกฯ ว่าเป็นรัฐบาลส้มหล่น ถือเป็นการด้อยค่า เพราะข้อเท็จจริงคือ เมื่อพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต้องส่งไม้ต่อมาให้พรรคเพื่อไทย และนายกฯ ได้รับการเลือกจากรัฐสภา และได้รับการโปรดเกล้าฯ ดังนั้น ขอให้ถอนคำพูดเพราะทำให้เกิดความเสียหายกับนายกฯ ที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

  • วิโรจน์ ลุกโต้ดุเดือด

ทำให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงเพื่อตอบโต้ โดยย้ำว่าการอภิปรายของสส.พรรคก้าวไกล เพื่อสะท้อนปัญหาของผู้ใช้แรงงานกลุ่มไรด์เดอร์ ดังนั้น กรณีที่สส.ทักท้วงแสดงว่าไม่ได้ให้ความสนใจปัญหาความเดือดร้อน และเข้าหาตอนหาเสียงเท่านั้น

ขณะที่การประท้วงของ สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นั้น นายวิโรจน์ ได้ตอบโต้ โดยย้ำคำว่า นายกฯเศรษฐา เป็นนายกฯส้มหล่น อยู่หลายครั้ง คล้ายกับตอกย้ำในประเด็นที่ สส.พรรคเพื่อไทย ทักท้วงให้ถอนคำพูด

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง

อย่างไรก็ตาม นายพรเพชร ชี้แจงโดยยอมรับความผิดพลาดของตนเอง เพราะจำที่สส.อภิปรายไม่ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากทำหน้าที่ประธานที่ประชุมแล้วต้องเซ็นแฟ้มด้วย ส่วนการนำเครื่องแต่งกายของไรเดอร์มาสวมใส่นั้น ทีแรกจะห้ามแต่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ต่อไปตนจะพิจารณาให้เคร่งครัด ส่วนที่มีผู้อภิปรายนำไอแพดขึ้นมาอ่าน ตนมองว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่อย่าให้ถึงกับก้มหน้าก้มตาอ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประท้วงจาก สส. 3 พรรคยังคงตอบโต้กันไปมา เพราะสส.ก้าวไกลไม่ยอมถอนคำพูด ทำให้ นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายวิโรจน์ ว่า “ผมได้ยินข่าวว่าจะอภิปรายสร้างสรรค์ ผมให้เกียรติทางน้องๆ ประเด็นนี้อยากให้ถอน และจบ เพื่อเดินต่อ”

ทำให้ นายวิโรจน์ ลุกประท้วงกลับว่า “เรียกผมว่าน้องๆ ผมไม่มีพี่ชายสันดานแบบเขา” ทำให้นายพรเพชรต้องปิดไมโครโฟนของทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนจะวินิจฉัยให้ สส.พรรคก้าวไกล ทั้งนายวิโรจน์ และนายศิริโรจน์ ถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสม และตามที่ถูกประท้วง เพื่อให้การอภิปรายนโยบายรัฐบาลดำเนินต่อไป ซึ่งการประท้วงดังกล่าวกินเวลาประชุมไปประมาณ 15 นาที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *