วันนี้ (19 ก.ย.66 ) เวลา 11.15 น. ที่ สโมสรตำรวจ นายสนธิญา สวัสดี เดินทางไป เพื่อสนับสนุนในนามของภาคประชาชน พร้อมยื่นเอกสารประกอบตรวจสอบบริษัท เกี่ยวกับการฮั้วประมูล และเกี่ยวกับการรับส่วย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล) พิจารณา ดำเนินการเป็นข้อมูล และดำเนินการตรวจสอบ ยึดทรัพย์ กำนันนก และเครือข่ายต่อไป
นายสนธิญาเผยว่า วันนี้ตนเองมายื่นซ้ำให้บิ๊กโจ๊กทราบ 3 ประเด็นด้วยกันคือ ประเด็นที่ 1 มายื่นเพื่อให้กำลังใจบิ๊กโจ๊ก เนื่องจากเรื่องนี้ท่านได้ดำเนินการเกี่ยวกับสืบสวนสอบสวนค่อนข้างครบถ้วน เนื่องจากคดียิงสารวัตรศิว และมีตำรวจอีกท่านหนึ่งบาดเจ็บไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่ว่าตำรวจ 29 นายที่อยู่ในงานกับประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ ที่นั่งอยู่ในงานสอบสวนและขณะนี้มีกล้องวงจรปิดชัดเจนแล้ว
ประเด็นต่อมาคือประเด็นที่ตนเองเคยเรียกร้องมาตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ 29 คนทั้งหมดนั้นให้ย้ายและให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน ถึงแม้ว่าจะย้ายไปอยู่ส่วนกลางแล้วก็ตาม ซึ่งอีก 2 วันตนเองจะไปยื่นให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบส่วนกลางพิจารณาให้ตำรวจ 29 นายหยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่วนอีกประเด็นที่มายื่นอาจจะซ้ำกับ DSI กรณีบริษัทหนึ่งไปประมูลงานที่จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากบริษัทดังกล่าวอยู่ที่จังหวัดราชบุรี อยากให้บิ๊กโจ๊กตรวจสอบว่าบริษัทนั้น เป็นคู่ร่วมประมูลร่วมกับบริษัทกำนันนกหรือไม่เนื่องจากตรวจสอบพบความผิดปกติ เรื่องของการลดราคาการประมูล
ส่วนกรณีการประมูลงานของกำนันนก 1,544 โครงการ ถ้าคิดเป็นความยาวบนท้องถนนเท่ากับอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงอำเภอเบตงจังหวัดยะลา ไปกลับไม่ต่ำกว่า 6 เที่ยว ซึ่งหมายความว่ากำลังนกประมูลงานได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 กว่ากิโลเมตร ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่าบริษัทกำนันนกที่ประมูลได้ทำด้วยตนเอง ซึ่งตนเองอยากจะเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
ส่วนประเด็นแถลงข่าวเมื่อวานนี้ที่ตำรวจสอบสวนกลางส่วนตัวมองว่า ผู้บัญชาการตำรวจสอบส่วนกลางอาจจะต้องมีการปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามคดี ซึ่งตนตามคดีนี้มาตั้งแต่เกิดเรื่อง หลังจากนั้นมีการยื่นหนังสือตามลำดับปัจจุบันยื่นไปแล้ว 4 ฉบับ
นอกจากนี้นายสนธิญายังได้กล่าวทิ้งท้ายหลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามว่าเชื่อหรือไม่ ว่ากำนันนกคือตัวจริงที่โดนจับไป นายสนธิญาก็ได้ตอบผู้สื่อข่าวว่าส่วนตัวไม่เชื่อเพราะคิดว่าแววตาไม่เหมือนแต่สุดท้ายก็ต้องเชื่อในผลทางนิติวิทยาศาสตร์และกระบวนการตรวจสอบลายนิ้วมือรวมถึงผลเลือดด้วย