ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จับกุม นายณัฐพงศ์ฯ นายกเทศมนตรีบางแก้ว เรียกรับสินบนผู้ประกอบการ พร้อมตรวจยึดเงินสด 1.5 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับร้องเรียนว่า นายณัฐพงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีพฤติกรรมเรียกรับสินบนผู้ประกอบการ แลกกับการลงชื่ออนุมัติในหนังสือคู่สัญญา โดยนายณัฐพงศ์ฯ ได้เรียกรับสินบนกับผู้ประกอบการที่ชนะประมูลโครงการจัดซื้อจอ LCD เป็นจำนวน 25% ของวงเงินสัญญา (มูลค่าวงเงินสัญญา 12 ล้านบาท) โดยนัดหมายให้ผู้ประกอบการนำเงินมามอบให้ก่อนครึ่งหนึ่ง คิดเป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. วางแผนร่วมกันจับกุมนายณัฐพงศ์ฯ นายกเทศบาลเมืองบางแก้ว โดยสามารถจับกุมนายณัฐพงศ์ฯ พร้อมตรวจยึดเงินสดของกลางจำนวน 1.5 ล้านบาท นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ระหว่างเข้าจับกุม นายณัฐพงศ์ฯ ได้มีการโยนถุงดำซึ่งภายในบรรจุเงินของกลางเข้าไปบริเวณใต้ท้องรถ เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พฤติการณ์นายกเทศบาลเมืองบางแก้ว
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของ เทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญา แลกกับหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนามอนุมัติ ในโครงการจัดซื้อ จอ LCD ซึ่งต่อมาบริษัทของผู้เสียหาย ได้เข้ายื่นเสนอราคาแข่งขันในระบบ e-bidding และมีการแจ้งผลการแข่งขันราคา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา และเป็นผู้ชนะการเสนอราคาดังกล่าว
แต่ปรากฏว่าถูกทางผู้บริหารของ เทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เรียกเข้าไปคุยเจรจา พร้อมขอเงินค่าหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญาที่ได้มีการหักค่าภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (หรือประมาณ 12,485,046.27 บาท) โดยให้จ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเงินจำนวน 1,560,630.84 บาท ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียหาย จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.
ซึ่งจากการสืบสวน มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอเชื่อได้ว่า นายณัฐพงศ์ ฯ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ฯ มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์จริง และเห็นว่าผู้กระทำผิดเป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้บริหาร ของเทศบาลเมืองบางแก้ว ซึ่งได้ใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและโดยทุจริตเรียกรับสินบนจากผู้เสียหายดังกล่าว ประกอบกับมีข้อมูลว่าเคยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นมาแล้วหลายราย
เป็นที่มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของ ปปช. ปปท. เพื่อใช้วิธีวางแผนเข้าจับกุมในขณะที่ทำการส่งมอบเงินกัน โดยได้นัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน ๑,๕๖๐,๖๓๐.๘๔ บาทมาลงบันทึก ปจว.ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการส่งมอบให้ นายณัฐพงศ์ ฯ ตามที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้
กระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้นัดให้ผู้เสียหาย นำเงินสด 1,560,650 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนหกหมื่นหกร้อยห้าสิบบาท) ที่ลง ปจว.เป็นหลักฐานแล้ว ไปส่งมอบให้กับ นายณัฐพงศ์ ฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ ปปป. และปปช. ปปท.ได้วางกำลังซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะมีการส่งมอบเงินตามที่มีการเจรจากันไว้
จากนั้นขณะที่ นายณัฐพงศ์ ฯ กำลังเดินออกมาจากศูนย์การค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เพื่อเข้าจับกุม แต่ทันใดนั้น นายณัฐพงศ์ รีบวิ่งไปบริเวณรถของตนเอง ก่อนจะรีบโยนถุงสีดำ ซึ่งภายในบรรจุเงินของกลาง เข้าไปบริเวณใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัว นายณัฐพงศ์ ฯไว้ทันที
จากการตรวจสอบภายในถุงสีดำ ดังกล่าว พบเงินสด 1,560,650 บาท มีหมายเลขบนธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ ลง ปจว.ไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้นายณัฐพงศ์ ฯ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องไปตรวจค้นที่ห้องทำงาน และสถานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสวนสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีต่อไป