บรรยากาศญาติแรงงานไทยในอิสราเอล ยังคงมีความตึงเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากลุ้นความปลอดภัยของแรงงานกับสถานการณ์การสู้รบที่อิสราเอลอยู่ตลอดเวลา หลังยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการหยุดรบ พร้อมกับเฝ้ารอการกลับบ้านของญาติตนเอง เช่นเดียวกับครอบครัวของ น.ส.กิติยา ดาศรี อายุ 30 ปี ชาวบ้านหนองไทร ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ภรรยาของ นายประมูล โคษาสด อายุ 37 ปี ที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล
หลังเมื่อเวลา 19.00 น.ของวานนี้ (9 ต.ค. 2566) นายประมูล ได้วิดีโอคอลจากที่เกิดเหตุมาถึงภรรยาที่บุรีรัมย์ อัปเดตความเป็นอยู่ว่าปลอดภัยแล้ว หลังจากต้องหลบซ่อนมานานกว่า 10 ชั่วโมง โดย นายประมูล เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าในเวลาของประเทศอิสราเอลว่า พวกตนอยู่ในแคมป์คนงาน มีแรงงานไทยเป็นชายอยู่ด้วยกัน 13 คน ได้ยินเสียงเคาะประตูเสียงดังเหมือนจะพังเข้ามา
แต่ทีมงานไม่เปิดประตูให้เพราะเกรงจะได้รับอันตราย จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงวิ่งหาที่ซ่อน ท่ามกลางเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้วางเพลิงแคมป์คนงานมีควันคละคลุ้ง แรงงานทุกคนจึงหาวิธีเอาตัวรอด อาศัยควันไฟที่สามารถพรางตัวได้ กระโดดออกหน้าต่างไปคนละทิศละทาง
ส่วนตนไปนอนหมอบในไร่พริกไม่ออกไปไหน ตั้งแต่เวลา 07.00 น.จนถึงเวลา 17.00 น. ก็เห็นทหารอิสราเอล เข้ามาถึงจึงออกมาขอความช่วยเหลือ ก่อนทหารจะพาไปที่ปลอดภัยพร้อมกับแรงงานที่อยู่ด้วยกันรวม 13 คน ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรแล้ว อยากกลับเมืองไทยมากกว่า เพราะรู้สึกจะไม่ปลอดภัยแล้ว
ด้าน นางกิติยา ภรรยา นายประมูล เล่าว่า สามีไปทำงานตั้งแต่เดือน ม.ค. 64 ไปเป็นแรงงานแพ็คผัก หลังจากเกิดเหตุสามีโทรศัพท์มาเป็นระยะ ตอนนี้เป็นห่วงสามีมาก อยากให้กลับบ้านมาอยู่เมืองไทย เพราะตอนนี้ใช้หนี้หมดแล้ว ไม่หวังอะไรต่อแล้ว อยากให้มีชีวิตกลับมาแค่นั้นก็พอ จึงอยากจะให้รัฐบาลเร่งไปรับแรงงานไทยกลับบ้านโดยเร็ว