พ่อร้อนใจหนัก ลูก 4 คนทำงานที่อิสราเอล สุดห่วงลูกคนเล็กติดต่อไม่ได้ ช็อกถูกจับตัวไป

Author:

จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกองกำลังกลุ่มฮามาส ซึ่ง จ.น่าน มีแรงงานไปทำงานที่อิสราเอล จำนวน 898 คน เป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือ รองจาก จ.เชียงราย และมีผู้เสียชีวิตขณะนี้แล้ว 1 ราย ได้แก่ นายธวัชชัย หรือเช้ง แซ่ท้าว ชาวบ้าน ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน และที่ยังติดต่อไม่ได้อีกหลายคน

ล่าสุดวันที่ 10 ต.ค.66 นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รอง ผวจ.น่าน รรท.ผวจ.น่าน พร้อมด้วย นายชนินทร์ พันธุ์เหม นายอำเภอปัว และส่วนราชการด้านแรงงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.น่าน ได้เข้าเยี่ยมครอบครัว น.ส.สุนิตา หรือนิด คงพิรินันท์ ภรรยาของ นายธวัชชัย เพื่อให้กำลังใจ และดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการ ท่ามกลางบรรยากาศความเสียใจของคนในครอบครัว และญาติพี่น้อง รวมทั้งอีกหลายครอบครัวที่ยังไม่สามารถติดต่อลูกหลานของตัวเองได้ แวะเวียนมาสอบถาม

นายยง แซ่ท้าว อายุ 47 ปี พ่อของ นายธวัชชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยืนยันชัดเจนแล้วว่าลูกชายเสียชีวิต รู้สึกเสียใจมาก และยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ทั้งเรื่องรับศพ รอเพียงทางราชการติดต่อมา

ขณะที่ นายสมชาย อาชาธนกุล อายุ 43 ปี เป็นน้าชาย เล่าว่า เฉพาะ ต.ป่ากลาง อ.ปัว คนไปทำงานที่อิสราเอลจำนวนมาก และยังมีที่ติดต่อลูกหลานไม่ได้อีกหลายคน โดยเมื่อช่วงเช้าได้ติอต่อไปหาคนที่นั่น ทราบว่าขณะนี้ทางการของอิสราเอลได้ทยอยเข้าไปเก็บศพผู้เสียชีวิตแล้ว

ส่วนอีกครอบครัวที่ลูกชาย 4 คนเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล แต่ไม่สามารถติดต่อลูกชายคนสุดท้องได้ คือ นายศรายุทธ ปั้นกิจวานิชเจริญ อายุ 33 ปี ชาวหมู่ 6 ต.ป่ากลาง อ.ปัว ก็ยงคงรอด้วยความหวังว่าลูกชายคนสุดท้องจะปลอดภัย

นายสุรจิต ปั้นกิจวานิชเจริญ อายุ 55 ปี ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า ลูกชาย 4 คน ไปทำงานการเกษตรที่อิสราเอลทั้งหมด ซึ่ง นายศรายุทธ เป็นลูกคนสุดท้อง และเพิ่งไปทำงานได้ 4 เดือน วันเกิดเหตุ (7 ต.ค.) ยังติดต่อลูกชายได้ ยกเว้นเพียง นายศรายุทธ เท่านั้น กระทั่งเมื่อวานติดต่อไปหาเพื่อนที่แคมป์ จึงรู้ว่าถูกจับกุมตัวไป ตอนนี้ก็หวังเพียงว่าลูกชายจะปลอดภัย กลับมาบ้านมาหาพ่อแม่ และลูกเมียของเขา

ด้าน นายกฤชเพชร กล่าวว่า สำหรับ จ.น่าน มีแรงงานไปทำงานทั้งหมด 898 คน ส่วนใหญ่สามารถติดต่อกับญาติได้ เนื่องจากพื้นที่ทำงานอยู่ห่างจากพื้นที่เกิดเหตุการณ์สู้รบ แต่ก็มีอีกจำนวนที่ทำงานอยู่ในโซนอันตราย โดยเฉพาะพี่น้องแรงงาน ต.ป่ากลาง อ.ปัว ซึ่งมี 179 ราย ที่ไปทำงานที่นั่น และเกินครึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่อันตราย ซึ่งยังมีที่ยังติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้อาจเกิดจากสัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ขณะนี้ทางราชการกำลังเร่งประสานงาน โดยเฉพาะให้ญาติเร่งติดต่อผ่านไปทางเพื่อนที่ไปทำงานด้วยกัน เพื่อเร่งช่วยเหลือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *