จากกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด ที่ทางตำรวจชุดสืบสวนได้รับมาจากกองพิสูจน์หลักฐานซึ่งกล้องทั้งหมดมี 15 ตัว เป็นกล้องที่บ้าน และรอบสำนักงาน ทางกองพิสูจน์หลักฐาน สามารถกู้คืนได้แล้ว 13 ตัว ซึ่งยืนยันว่า ทั้ง 13 ตัว ได้ภาพในลักษณะที่สมบูรณ์ เหลืออีก 2 ตัว อยู่ระหว่างการกู้คืน คาดว่าจะใช้เวลา 10 ชม. พรุ่งนี้น่าจะชัดเจนว่า สามารถที่จะกู้คืนได้หรือไม่
ส่วนกล้อง13 ตัวนั้น ในช่วงบ่ายทีมสืบสวนสอบสวนจะไล่ดูกล้องทั้ง 13 ตัว และจะมีการสรุปแถลงข้อมูลในช่วงหัวค่ำวันนี้ แต่อาจจะไม่สามารถนำภาพมาให้สื่อมวลชนดูได้ เนื่องจากเป็นหลักฐานในสำนวนคดี
ล่าสุด 14 ก.ย เวลา 21.49 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ออกมาเปิดเผยในเบื้องต้นว่า ภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดกับคำให้การของตำรวจสวนทางกันหมด พร้อมกับยืนยันนาทีเกิดเหตุยิงสารวัตรแบงค์ ไม่มีใครตำรวจคนไหนจับนายหน่อง เอาแต่วิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง แค่ยิงนัดแรกตำรวจก็วิ่งแล้ว ส่วนตำรวจที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลนั้นก็ไม่ได้เยอะ อย่างที่ข้อมูลออกไปก่อนหน้า ส่วนคนบอกว่าช่วยแต่จริงๆไม่ช่วยก็มี
จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมแน่นอน เซิร์ฟเวอร์สำคัญที่เห็นคนทำลายหลักฐาน และเห็นช่วงที่มีการสั่งยิง ยังกู้ไม่สำเร็จ คาดว่าน่าจะเสร็จพรุ่งนี้บ่ายๆ
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่มีใครยืนอยู่ข้างตำรวจเลย ผมก็ทำหน้าที่สุดความสามารถ ทวงความเป็นธรรมให้ผู้ตาย