วันนี้ (17 กันยายน 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ภาพ และข้อความ ตัดพ้อจากกรณีที่ตนเองขอลางานเพื่อไปบวชหน้าไฟให้กับยายที่เสียชีวิตกะทันหัน หัวหน้าตอบกลับมาว่า ตามสบาย แต่หลังจากนั้นกลับถูกไล่ออกจากงาน ทั้งที่แจ้งให้หัวหน้างานรับทราบแล้วว่าประสงค์ขอลางาน อีกทั้งผู้โพสต์ได้เปิดเผยข้อความแชตสนทนากับหัวหน้างานยืนยันว่า ได้แจ้งให้หัวหน้ารับทราบแล้ว โดยมีข้อความระบุว่า วันนี้กับพรุ่งนี้ผมไปทำงาน แล้ววันศุกร์ เสาร์ ผมหยุดได้ไหมครับ ต้องบวชให้ยายด้วย จากนั้นทางหัวหน้าตอบกลับมาว่า ตามสบายค่ะ

โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความในเฟซบุ๊กว่า ณ โรงงานแห่งหนึ่ง ที่ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งยายผมเสียแล้ว ผมทักไปลา เขาตอบมาว่าตามสบาย เราก็นึกว่าจะเข้าใจจริง ๆ เพราะมันก็ไม่มีใครอยากหยุดหรอก ทำงานได้ยังไม่ถึงเดือนเลย แต่เหตุผลแบบนี้มันก็ควรจะเข้าใจกันนะเอาจริง ๆ อะ แล้วมึงจะมาพูดทำไมวะว่า ตามสบาย พอไม่ไปก็มาโทรไล่กูออกวันนี้ กูได้รู้แล้วแหละว่า ทำไมคนเขาถึงออกเยอะขนาดนั้น สังคมไทยเองครับ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านที่จัดงานศพของยายผู้โพสต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา พบกับ นายบุญญฤทธิ์ หรือ ตั้ง อายุ 21 ปี หนุ่มพนักงานโรงงานผู้โพสต์ ซึ่งบวชเณรอยู่ในผ้าเหลือง เปิดใจว่า

ตนทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ปักธงชัย ซึ่งเพิ่งทำงานนี้ได้ประมาณ 10 วัน เริ่มทำงานตั้งวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา แม่ของตนโทรมาบอกว่า ยายป่วยมีอาการทรุดหนัก และยายได้เสียชีวิตลง ตนจึงตั้งใจลางานเพื่อมาบวชตอบแทนบุญคุณยาย ที่เคยเลี้ยงดูตนมาตั้งแต่เด็ก

ตนจึงได้ส่งข้อความไปทางแอปพลิเคชันไลน์เพื่อแจ้งลางานให้หัวหน้างานทราบ แต่หัวหน้าไม่ได้อ่านแชต ตนจึงได้โทรไปหา แต่หัวหน้างานก็ไม่รับสาย ผ่านมา 1 วัน หัวหน้าได้ตอบแชตกลับมาว่า ตามสบายค่ะ

เนื่องจากว่าตนเองเป็นพนักงานใหม่ ยังไม่เข้าใจระบบขั้นตอนของการลางาน คิดว่าเพียงส่งข้อความไปแจ้งให้หัวหน้างานรับทราบเบื้องต้นก่อนก็น่าจะได้ อีกทั้งหัวหน้างานก็ตอบรับทราบแล้ว และก็ยังไม่ได้บอกด้วยว่า ตนไม่สามารถลางานได้ ทำให้ตนเข้าใจว่า สามารถลางานได้ตามปกติ

จนกระทั่งก่อนเผาศพยาย ก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาจากทางบริษัทบอกว่า ตนถูกปลดออกจากงานแล้ว เนื่องจากไม่ผ่านงาน ให้กลับมาสมัครใหม่อีกใน 6 เดือนข้างหน้า ทำให้สงสัยว่า เป็นเพราะสาเหตุลางานหรือไม่ ที่ทำให้ตนถูกไล่ออก ตนจึงได้ส่งข้อความกลับไปถามหัวหน้างานว่า ทำไมตนถึงถูกไล่ออก แต่หัวหน้างานปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนโทรมาบอกว่าตนเองถูกปลดออกงานแล้ว ทำให้ตนสับสนว่า ใครเป็นคนโทรมาบอกว่า ตนถูกปลดให้ออกจากงาน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนตัดสินใจไม่กลับไปทำงานที่โรงงานแห่งนี้อีกแล้ว หลังจากถูกไล่ออก และอย่างหนึ่งที่ตนเองอยากบอกคือ การเป็นถึงหัวหน้าคน ถ้าตนเองมีลูกน้องมาบอกว่า คนในบ้านเสียชีวิต คำแรกที่ตนเองจะพูดเลยก็คือ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ ไม่ใช่ตอบว่า ตามสบายค่ะ

นางณัฎชา อายุ 56 ปี แม่น้องตั้ง เปิดเผยว่า หลังจากที่ยายเสียชีวิต ได้โทรไปบอกลูกชาย และถามว่าสามารถลางานมาบวชให้ยายได้ไหม ลูกชายจึงขอถามหัวหน้าก่อนว่า จะลางานได้หรือไม่ เนื่องจากเพิ่งทำงานได้ยังไม่ถึง 1 เดือน ลูกชายได้ส่งแจ้งขอลาไป หัวหน้าตอบว่า ตามสบายค่ะ แต่สุดท้ายกลับมาถูกไล่ออก

ตนจึงข้องใจว่า ถ้าไม่สามารถลางานได้ ทำไมหัวหน้าถึงไม่แจ้งตั้งแต่แรก แต่กลับต้องมาถูกไล่ออก พอสอบถามไปทางหัวหน้างานก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า คนที่โทรมาไล่ออกจากงานคือใคร ตำแหน่งอะไร และทางโรงงานก็ยังไม่มีการออกมาชี้แจงสาเหตุที่ไล่ลูกชายของตนเองออก ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด